ชื่อเรื่อง         การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา

ศาสนา และวัฒนธรรมเรื่อง พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ผู้วิจัย             นางสุพัชฌา วิลาจันทร์

ปีที่วิจัย          ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ

           การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT

กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมเรื่อง พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่องพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 5) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของผู้ปกครองที่มีต่อพฤติกรรมใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง พระพุทธศาสนา   กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนนาข่าวิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้วิธีการจับสลากและใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง พระพุทธศาสนาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4จำนวน 11 แผน ใช้สอนแผนละ 2 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ เรื่อง พระพุทธศาสนาจำนวน 30 ข้อ ค่าความยากง่าย (p) ตั้งแต่ 0.30 - 0.70ค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.22 - 0.67และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.853) แบบวัดความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ มีอำนาจจำแนกรายข้อ (rxy)ตั้งแต่ 0.29 - 0.76และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.90 และ 4) แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้ปกครองที่มีต่อพฤติกรรมใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน จำนวน 12 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบด้วย t-test (Dependent Sample)

          ผลการวิจัยพบว่า

  1. แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
  2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT กลุ่มสาระ
  3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT กลุ่มสาระ

ศาสนา และวัฒนธรรมเรื่อง พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 85.42/84.11 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมเรื่อง พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.7045 แสดงว่า นักเรียนที่เรียนโดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ4 MAT มีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 70.45

3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT กลุ่มสาระ

การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมเรื่อง พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

มีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

ที่ระดับ .05 การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

               5. ผู้ปกครองมีความคิดเห็นต่อพฤติกรรมใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง พระพุทธศาสนา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก